แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อินโดนีเซีย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อินโดนีเซีย แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

แหล่งท่องเที่ยวประเทศ อินโดนีเซีย

คินตะมะนี

             อินโดนีเซีย เมืองหลวงชื่อจาการ์ตา (Jakarta) หรือในอดีตชื่อ “ปัตตาเวีย” (Batavia) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะชวา มีพื้นที่ 650 ตารางกิโลเมตร ประชากร 10 ล้านคน เป็นศูนย์กลางทั้งด้านการปกครองและเศรษฐกิจของประเทศ มีสนามบินนานาชาติคือ Soekarno Hatta International Airport มีท่าเรือใหญ่ที่สุดของประเทศ คือ Tanjung Priok
surabaya jakata  Yogyakarta

สุราบายา (Surabaya)
 เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ อยู่บนเกาะชวา ประชากรประมาณ 2.5 ล้านคน ทรัพยากรธรรมชาติสำคัญคือ หินชอล์ก ทำให้จังหวัดนี้มีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ อีกทั้งยังมีหินอ่อน น้ำมัน และเกลือ มีสนามบินนานาชาติคือ Juanda Airport และท่าเรือ Tanjung Perak
ยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) อยู่บนเกาะชวา เป็นศูนย์กลางทั้งด้านศิลปะ และวัฒนธรรม นอกจากนั้นยอกยาการ์ตา ยังเป็นที่ตั้งของบุโรพุทโธ (Borobudur) พุทธสถานที่มีชื่อเสียงและสำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้ รวมถึงหมู่วิหารโบราณฮินดู คือ ปรามบานัน (Pram-banan) สนามบินหลักคือ Adi Sucipto Airport
เมดาน (Medan) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของเกาะสุมาตรา มีประชากร 2.1 ล้านคน เมดานเป็นแหล่งเพาะปลูกใหญ่ที่สุด ของอินโดนีเซีย ทั้งปาล์มน้ำมัน ชา โกโก้ ยางพารา และยาสูบ นอกจากนั้น ยังมีแร่ธาตุสำคัญ อาทิ น้ำมัน และก๊าซ มีสนามบินนานาชาติ คือ Polonia Airport และท่าเรือ Belawan Port
เรียว (Riau) อยู่บนเกาะสุมาตรา มีพื้นที่ 95 พันตารางกิโลเมตรประชากร 5.4 ล้านคน พืชเศรษฐกิจสำคัญคือ มะพร้าว ยางพารา ชา และโกโก้ นอกจากนี้ ยังมีไม้มีค่าต่างๆ และน้ำมันปิโตรเลียม โดยสินค้าส่งออกสำคัญคือ น้ำมันปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์ไม้ สนามบินสำคัญคือ Sultan Syarif Kasim II Airport ท่าเรือคือ Batu Ampar Port
bali
แจมบี (Jambi) อยู่บนเกาะสุมาตรา มีพื้นที่ 44.8 พันตารางกิโลเมตร ประชากร 2.5 ล้านคน พืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ มะพร้าว โกโก้ และชา นอกจากนั้นยังมีแร่ธาตุอื่นๆ อาทิ น้ำมันปิโตรเลียม ถ่านหิน ทองแดง สินค้าส่งออกสำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์จากป่า สนามบินหลัก คือ Sultan Thaha Airport
ปาเลมบัง (Palembang) อยู่บริเวณสุมาตราใต้ พืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน ยาง กาแฟ พริกไทย ชา สินค้าส่งออกสำคัญคือ ยาง กาแฟ สนามบินหลัก คือ Sultan Baharudin II Airport ท่าเรือคือ Boom Baru Port
เดนปาซาร์ (Denpasar) เป็นเมืองหลวงของเกาะบาหลี (Bali) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงด้านความงดงามของธรรมชาติและชายหาดที่สวย งาม สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ปีละกว่า 1 ล้านคน สนามบินนานาชาติ คือ Gusti Ngurah Rai International Airport


สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้ง
บาหลี    เป็นที่ท่องเที่ยวสำหรับทุกคน เด็ก ผู้ใหญ่และคู่ฮันนีมูล ฯลฯ  บาหลีมีวัฒนธรรม  มีความสนุก  มีธรรมชาติสวยๆ  มีเอกลักษณ์ที่จะหาไม่ได้จากที่อื่น บาหลีมีที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ทุกมุมของบาหลีมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย รอบๆเกาะยังมีที่ดำน้ำ ที่เล่นเซิร์ฟสำหรับนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวก็มีล่องแก่ง มีเดินป่า ไต่เขา และที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนชอบมาก  คือ ช็อปปิ้ง ที่บาหลีเป็นสวรรค์ของนักช็อปปิ้งจริงๆ คนบาหลีแท้ๆ ซื่อสัตย์ ใจดี ยิ้มง่าย เชื่อในเรื่องเวรกรรมบาปบุญ มีปัญหาเรื่องขโมย เรื่องโกง เป็นเพราะ คนจากเกาะอื่นที่มาทำมาหากินที่บาหลี  มาเที่ยวบาหลีทุกคนมีกิจกรรมทำได้ตลอด   ฝ่ายชายไปเล่นกอล์ฟ ฝ่ายหญิงไปช็อปปิ้งหรือเข้าสปา ลูกๆก็ไปเล่นน้ำ

จะไปเที่ยวบาหลีช่วงไหนของปีก็ได้ เพราะแม้แต่หน้าฝนแต่ฝนไม่ได้ตกตลอดวัน มักตกตอนเช้า 2 – 3 ชม.แล้วก็หยุด ไปตกอีกทีตอนค่ำกลางวันก็เที่ยวได้ไม่ต้องกังวลเรื่องฝน แต่ช่วงเดือนสิงหาคมกับช่วงคริสต์มาสและปีใหม่นักท่องเที่ยวจะเยอะแต่ไม่มีปัญหายังไงก็หาที่พักได้แน่นอน กูต้า สนามบินนูราลัย (Ngurah Rai) อยู่ห่างจากกูต้าเพียงนิดเดียว  แต่รถติดทำให้ใช้เวลานานสักนิดกว่าจะถึงโรงแรมที่พัก กูต้ามีลักษณะคล้ายกับพัทยา และป่าตอง เต็มไปด้วยแสงสี Shopping Area และร้านอาหาร กูต้า เลเกียน และเซมินยัก อดีตเคยเป็นสามหมู่บ้านที่ห่างกัน ปัจจุบันเชื่อมติดด้วยถนนสายช้อปปิ้งที่มีร้านขายของตั้งเรียงรายสุดสายตาเปิดดึกถึงเที่ยงคืน และมีศูนย์การค้าใหญ่กูต้าเซ็นเตอร์ ห้างสรรพสินค้ามาตาฮารี สวนน้ำวอเตอร์บอมบ์ รวมทั้งฮาร์ดร๊อคโฮเต็ล สินค้า: ผ้าอิกัต ผ้าซุมบ้า ถาดไม้ขุด แมวไม้ทาสี

นูซาดูอา (Nusa Dua) คือติ่งตรงปลายสุดของเกาะบาหลี เป็นแหล่งพักผ่อน ฮันนีมูน และเล่นกอล์ฟ โดยพัฒนาจากที่รกร้างริมทะเลจนกลายเป็นแหล่งรวมของโรงแรมระดับห้าดาว ศูนย์ประชุม และ บาหลีกอล์ฟแอนด์คันทรี่คลับ รวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งและตลาด นอกจากนี้การบริการแบบบาหลีที่นุ่มนวลเป็นมิตรและยิ้มแย้ม ยิ่งสร้างเสน่ห์ให้กับบาหลีมากยิ่งขึ้น สปาแบบบาหลี หนึ่งในความสบายที่สัมผัสได้ ใช้บริการได้ทั้งหญิงและชาย ความโดดเด่นที่ทำให้สปาแบบบาหลีเป็นที่น่าสนใจคือ การนำเอาสมุนไพรแบบบาหลี – ลูลูร์ (Lulur) มาใช้
เมื่อมาถึงบาหลีแล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือการไปวัด โดยเฉพาะในวันที่มีพิธีกรรม เป็นสิ่งที่ยังคงดำรงอยู่ไม่สูญหาย เป็นเอกลักษณ์และความน่าชื่นชม บาหลี มีหมู่บ้านหัตถกรรม วัด โบราณสถาน และอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายที่ควรไปชม อยู่ด้านในตัวเกาะ อาทิเช่น
เทมภัคสิริงค์ ( Tampaksiring ) 
มีตีรตะเอมปลูน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะในหมู่ชาวบาหลี ผู้คนเชื่อกันว่าน้ำพุนี้มีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆ ทุกปีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ จะเดินทางมาที่นี่เพื่อชำระล้างมลทินในบ่อน้ำ บริสุทธิ์ ก่อนอาบน้ำจะทำการบูชา ขอบคุณเทพเจ้าแห่งน้ำพุ ที่แท่นบูชา และกรุณาจำไว้ว่าห้ามถ่ายรูปชาวบาหลีขณะอาบน้ำ ถือเป็นเรื่องที่ หยาบคายมากๆ ทุกวันพระจันทร์เต็มดวงในเดือนตุลาคม ชาวบ้านจากหมู่บ้านมุนะคะยา จะเดินทางมาที่นี่ พร้อมกับหินศักดิ์สิทธิ์จากวัดปุราซะเกนัน เพื่อประกอบพิธีชำระล้างหิน 
อุรุดานู บราตาน (Ulun Danu Bratan Temple)

วัดแห่งนี้ถูกตั้งชื่อตามที่ตั้งคือทะเลสาปเบราตาน หมู่บ้านเบดูกัล (Bedugul) วัดอุรุดานู เบราตาน ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่ พระเจ้า เดวิ ดานู (Dewi Danu) เทพเจ้าแห่งสายน้ำตามความเชื่อทางศาสนาอินดู  ตัววัดถูกสร้างอยู่บนพื้นที่ผืนเล็กๆ ที่รายรอบไปด้วยแม่น้ำ

เบดูกัลตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,300 เมตร จากระดับน้ำทะเลเป็นแหล่งที่พักตากอากาศ มีทะเลสาบที่สงบเงียบและถูกปกคลุมด้วยม่านหมอก เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟกุนุงบราตัน เป็นแหล่งน้ำที่มีความสำคัญสำหรับไร่นาในแถบนี้ จึงมีพิธีบูชาเดวีดะเนา มีสนามกอล์ฟ 18 หลุม ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
กุหนุงกาวี (Gunung Gawi)
ที่ฝังพระศพโบราณตั้งแต่ 8-900 ปีก่อน เลยไปทางตะวันออก จะมุ่งสู่เบซากี (Besakih)ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุด และถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเหนือวัดทั้งปวง วัดเบซากี มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล ประกอบด้วยวัดใหญ่น้อยรวมอยู่ด้วยกันถึง 22 วัด ถ้าขึ้นเหนือไปยังภูเขาบาตู จะได้ชมวิวสวยของภูเขาและทะเลสาบที่คินตามนี หากลงทางใต้ปลายสุดติ่งใกล้นูซาดูอา มีวัดอูลูวาตู อยู่ริมผาซึ่งมีความสวยงามมาก ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เช่นเดียวกับวัดทานาลอต ซึ่งจะพิเศษสุดเวลาน้ำขึ้นท่วมทราย ตัดให้ก้อนหินใหญ่ ที่ตั้งวัดกลายเป็นเกาะเล็กๆ ริมทะเล เป็นต้น 
คินตะมะนี (Kintamani)
เป็นอำเภอบนภูเขา ซึ่งได้ชื่อมาจากเมืองโบราณ คินตะมะนีอยู่ที่ความสูง 1,500 เมตร มีภูเขาไฟบะตูร์ที่ยังคงมีร่องรอยของการระเบิด ในอดีต ภูเขาไฟลูกนี้เป็นภูเขาไฟ ที่ยังคงมีชีวิต การปะทุของภูเขาไฟลูกนี้ครั้งล่าสุด เมื่อปี 1994 แต่การปะทุครั้งใหญ่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในปี 1926 และมีหมู่บ้านที่สวยงามบนปากปล่องภูเขาไฟ และมีทะเลสาบที่งดงามดูเป็นสีฟ้าใสราวกับแก้ว แต่บางครั้งกลับดูเป็นสีเงินเหมือนฉาบปรอท จัดเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของบาหลี
ถ้ำช้างหรือกัวคชา (Goa Gajah)
ที่ปากถ้ำเป็นหินสลักรูปหน้ายักษ์อ้าปากกว้าง ข้างในมีรูปพระคเณศวร์และลึงค์สามแท่ง แทนเทพสามองค์คือ ศิวะ นารายณ์ และวิษณุ
เทมปักเซริง (Tempaksering)
มีสถานที่ศักดิ์สิท์และมีความสำคัญอยู่สองแห่งคือ วัดเตียร์ตาอัมปึล (Tirta Empul) และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใสสะอาดที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน คนบาหลีเชื่อว่าถ้าได้มาอาบน้ำที่นี่ จะเป็นสิริมงคลและขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปจากร่าง อีกแห่งคือ 
วัดปุราตะนาห์ลอต (Pura Tanah Lot)
วัดแห่งนี้เป็นศาสนสถานที่สำคัญอย่างมากของชาวบาหลี เป็นหนึ่งในเจ็ดของวัดที่ถูกก่อตั้งขึ้นในยุค ศตวรรษที่ 16 โดยนักบวชฮินดู ชื่อ นาราธาร์ (Nirartha) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล  วัดปุราตะนาห์ลอต ตั้งอยู่บนโขดหินใหญ่ นอกฝั่งยื่นล้ำสู่ทะเลมองเห็นเป็นเงาสีดำ สวยที่สุดยามพระอาทิตย์ตกดิน ตะนาห์ลอต แปลว่า ผืนดินในท้องทะเล
ทุ่งนาขั้นบันได

แม้ธุรกิจท่องเที่ยวจะเป็นรายได้หลักของชาวบาหลี  แต่ประชากรอีกจำนวนมาก ยังคงประกอบอาชีพทำการเกษตร ทำนา และด้วยลักษณะภูมิประเทศ ทำให้ลักษณะของพื้นนาเป็นการปลูกแบบขั้นบันได  เกิดเป็นทัศนียภาพที่แสนงดงาม เขียวชะอุ่มไล่เรียงไปตามไหล่เขา  อีกทั้งยังมีไร่กาแฟ ที่ขึ้นชื่อ และ เป็นที่น่าสนใจสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวอีกด้วย


ขอขอบคุณข้อมูล www.indochinaexplorer.com  

สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia)

ธงชาติ
ตราแผ่นดิน
แผนที่

ชื่อทางการ : สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia)
ที่ตั้ง : อยูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต  โดยตั้งอยูบนเสนทางเชื่อมตอระหวางมหาสมุทรแปซิฟกกับมหาสมุทรอินเดีย และเปนสะพานเชื่อมระหวางทวีปเอเชียกับออสเตรเลีย ทำใหอินโดนีเซียสามารถควบคุมเสนทางการติดตอระหวางมหาสมุทรทั้งสอง ผานชองแคบที่สำคัญตางๆ เชน ชองแคบมะละกา ชองแคบซุนดา และชองแคบล็อมบอก ซึ่งเปนเสนทางขนสงน้ำมันจากตะวันออกกลางมายังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตและเอเชียตะวันออก
พื้นที่ 1,890,754 ตารางกิโลเมตร  เปนประเทศหมูเกาะที่มีขนาดใหญที่สุดในโลก ประกอบดวยเกาะใหญนอย
กวา 17,508 เกาะ รวมอยูในพื้นที่ 4 สวน คือ
- หมูเกาะซุนดาใหญ ประกอบดวย เกาะชวา สุมาตรา บอรเนียว และสุลาเวสี
- หมูเกาะซุนดานอย ประกอบดวยเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยูทางตะวันออกของเกาะชวา มีเกาะบาหลี ลอมบอก ซุมบาวา ซุมบา ฟอลเรส และติมอร
- หมูเกาะมาลุกุ หรือ หมูเกาะเครื่องเทศ ตั้งอยูระหวางสุลาเวสี กับอิเรียนจายาบนเกาะ นิวกีนี
- อีเรียนจายา อยูทางทิศตะวันตกของปาปวนิวกินี
เมืองหลวง : จาการตา (Jakarta)
ประชากร : ประมาณ 220 ลานคน ประกอบดวย ชนพื้นเมืองหลากหลายกลุม ซึ่งพูดภาษาตางกันกวา 583 ภาษา
     รอยละ 61 อาศัยอยูบนเกาะชวา
ภูมิอากาศ : มีอากาศรอนชื้นแบบศูนยสูตร ประกอบดวย 2 ฤดู คือ ฤดูแลง (พฤษภาคม-ตุลาคม) และ
                   ฤดูฝน (พฤศจิกายน-เมษายน)
ภาษา : ภาษาราชการและภาษาประจำชาติ ไดแก ภาษาอินโดนีเซีย หรือ Bahasa Indonesia
ศาสนา : ชาวอินโดนีเซียรอยละ 87 นับถือศาสนาอิสลาม  รอยละ 6 นับถือศาสนาคริสตนิกายโปรแตสแตนท
              รอยละ 3.5 นับถือศาสนาคริสตนิกายแคทอลิก  รอยละ 1.8 นับถือศาสนาฮินดู  และรอยละ 1.3 นับถือ
ศาสนาพุทธ
สกุลเงิน : รูเปยห (Rupiah : IDR)
                อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ (ซื้อ) 2.87 บาท / 1,000 รูเปยห  (ขาย) 3.32 บาท / 1,000 รูเปยห (มกราคม 2552)
ระบอบการปกครอง : ประชาธิปไตย ที่มีประธานาธิบดีเปนประมุข และหัวหนาฝายบริหาร
 * ประธานาธิบดี คือ ดร.ซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน (Susilo Bambang Yudhoyono)
(ตุลาคม 2547)

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

10 อาหารประจําชาติอาเซียน

อาม็อก - ประเทศกัมพูชา
อาม็อก - ประเทศกัมพูชา

             อาม็อก (Amok) อาหารยอดนิยมของกัมพูชา ลักษณะคล้ายห่อหมกของไทย  โดยมากแล้วนิยม
ปรุงเนื้อปลาลวกด้วยพริกเครื่องแกงและกะทิ แล้วทำให้สุกโดยการนำไปนึ่ง บางตำรับอาจใช้เนื้อไก่หรือหอยแทน สาเหตุหนึ่งที่คนในประเทศนี้นิยมรับประทานปลา เพราะเป็นอาหารที่หาได้ง่าย เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง

อัมบูยัต - ประเทศบรูไน
อัมบูยัต - ประเทศบรูไน



3.ประเทศบรูไน

          อัมบูยัต (Ambuyat) เป็นอาหารยอดนิยมของบรูไน มีลักษณะเด่นอยู่ที่ตัวแป้งจะเหนียวข้นคล้ายข้าวต้ม หรือโจ๊ก โดยมีแป้งสาคูเป็นส่วนผสมหลัก ตัวแป้งอัมบูยัตเอง ไม่มีรสชาติ แต่ความอร่อยจะอยู่ที่การจิ้มกับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงอีก 2-3 ชนิด เช่น ผักสด เนื้อห่อใบตองย่าง หรือเนื้อทอด  ทั้งนี้ การรับประทานอัมบูยัตให้ได้รสชาติ ต้องรับประทานตอนร้อน ๆ จึงจะดีที่สุด


หล่าเพ็ด - ประเทศพม่า
หล่าเพ็ด - ประเทศพม่า


4.ประเทศพม่า

          หล่าเพ็ด (Lahpet) เป็นอาหารยอดนิยมของพม่า โดยการนำใบชาหมักมาทานกับเครื่องเคียง เช่น กระเทียมเจียว ถั่วชนิดต่าง ๆ งาคั่ว กุ้งแห้ง ขิง มะพร้าวคั่ว เรียกได้ว่า มีลักษณะคล้ายคลึงกับเมี่ยงคำของประเทศไทย ซึ่งหล่าเพ็ดนี้ จะเป็นเมนูอาหารที่ขาดไม่ได้ในโอกาสพิเศษหรือเทศกาลสำคัญ ๆ ของประเทศพม่า โดยกล่าวกันว่า หากงานเลี้ยง หรืองานเฉลิมฉลองใด ไม่มีหล่าเพ็ด จะถือว่าการนั้นเป็นงานที่ขาดความสมบูรณ์ไปเลยทีเดียว



อโดโบ้ - ประเทศฟิลิปปินส์
อโดโบ้ - ประเทศฟิลิปปินส์




5.ประเทศฟิลิปปินส์

          อโดโบ้ (Adobo) เป็นอาหารยอดนิยมของประเทศฟิลิปปินส์ ทำจากเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ที่ผ่านการหมัก และปรุงรส โดยจะใส่น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยอบในเตาอบ หรือทอด แล้วนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ

          ในอดีตอาหารจานนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทาง เนื่องจากส่วนผสมของอโดโบ้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน เหมาะสำหรับพกไว้เป็นเสบียงอาหารระหว่างการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันอโดโบ้ได้กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่นำมารับประทานกันได้ทุกที่ทุกเวลา

ลักซา - ประเทศสิงคโปร์
ลักซา - ประเทศสิงคโปร์


6.ประเทศสิงคโปร์

          ลักซา (Laksa) อาหารขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ ลักซามีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่กะทิ ทำให้รสชาติเข้มข้น คล้ายคลึงกับข้าวซอยของไทย โดยลักซาจะมีส่วนผสมของ กุ้งแห้ง พริก กุ้งต้ม และหอยแครง เหมาะสำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารทะเลเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ลักซามีทั้งแบบที่ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ ทว่า แบบที่ใส่กะทิจะเป็นที่นิยมมากกว่า


กาโด กาโด - ประเทศอินโดนิเซีย
กาโด กาโด - ประเทศอินโดนิเซีย


7.ประเทศอินโดนีเซีย

          กาโด กาโด (Gado Gado) อาหารยอดนิยมของประเทศอินโดนีเซีย ประกอบไปด้วยผัก และธัญพืชหลากหลายชนิด  ทั้งแครอท มันฝรั่ง กะหล่ำปลี ถั่วงอก ถั่วเขียว นอกจากนี้ยังมีเต้าหู้ และไข่ต้มสุกด้วย กาโด กาโดจะนำมารับประทานกับซอสถั่วที่คล้ายกับซอสสะเต๊ะ อย่างไรก็ตาม ด้วยเครื่องสมุนไพรในซอส อาทิ รากผักชี หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ทำให้เมื่อรับประทานแล้วจะไม่รู้สึกเลี่ยนกะทิมากจนเกินไปนั่นเอง

สลัดหลวงพระบาง - ประเทศลาว
สลัดหลวงพระบาง - ประเทศลาว

8. ประเทศลาว 

          สลัดหลวงพระบาง (Luang Prabang Salad) เป็นอาหารขึ้นชื่ออีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีรสชาติกลาง ๆ ทำให้รับประทานได้ทั้งชาวตะวันออก และตะวันตก โดยส่วนประกอบสำคัญคือ ผักน้ำ ซึ่งเป็นผักป่าที่ขึ้นตามริมธารน้ำไหล และยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น  มันแกว แตงกวา มะเขือเทศ ไข่ต้ม ผักกาดหอม และหมูสับลวกสุก ส่วนวิธีปรุงรสคือ ราดด้วยน้ำสลัดชนิดใส คลุกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และถั่วลิสงคั่ว

นาซิ เลอมัก - ประเทศมาเลเซีย
นาซิ เลอมัก - ประเทศมาเลเซีย

9.ประเทศมาเลเซีย

          นาซิ เลอมัก (Nasi Lemak) อาหารยอดนิยมของประเทศมาเลเซีย โดยนาซิ เลอมัก จะเป็นข้าวหุงกับกะทิ และใบเตย ทานพร้อมเครื่องเคียง 4 อย่าง ได้แก่ ปลากะตักทอดกรอบ แตงกวาหั่น  ไข่ต้มสุก และถั่วอบ ซึ่งนาซิ เลอมักแบบดั้งเดิมจะห่อด้วยใบตอง และมักทานเป็นอาหารเช้า แต่ในปัจจุบัน กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่ทานได้ทุกมื้อ และแพร่หลายในประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายแห่ง เช่น สิงคโปร์ และภาคใต้ของไทยด้วย
ปอเปี้ยะเวียดนาม - ประเทศเวียดนาม
ปอเปี้ยะเวียดนาม - ประเทศเวียดนาม


10.ประเทศเวียดนาม 

          เปาะเปี๊ยะเวียดนาม  (Vietnamese Spring Rolls) ถือเป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองที่โด่งดังที่สุดของประเทศเวียดนาม ความอร่อยของเปาะเปี๊ยะเวียดนาม อยู่ที่การนำแผ่นแป้งซึ่งทำจากข้าวจ้าวมาห่อไส้ ซึ่งอาจจะเป็นไก่ หมู กุ้ง หรือหมูยอ โดยนำมารวมกับผักสมุนไพรอีกหลายชนิด เช่น สะระแหน่ ผักกาดหอม และนำมารับประทานคู่กับน้ำจิ้มหวาน โดยจะมีถั่วคั่ว แครอทซอย ไชเท้าซอย ให้เติมตามใจชอบ และบางครั้งอาจมีเครื่องเคียงอย่างอื่นเพิ่มด้วย  

cr board.postjung





วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การ์ตูน ชุดประจำชาติ อาเซียน

ประเทศอะไรบ้างคงดูออกนะครับ ดูจากธงชาติที่ถือได้ 

รูปภาพติดลิขสิทธิ์ เราจึงต้องดำเนินการเอารุปออก ขออภัยอย่างสูง 

ประเทศอะไรบ้างคงดูออกนะครับ ดูจากธงชาติที่ถือได้ 

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

พาไปชม ชุดประจําชาติอาเซียน 10 ประเทศ


พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก isan.clubs.chula.ac.th , blogspot.com  , mignonesia.blogspot.comkesumodiningrat.comtyphon.net

          ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว สำหรับการรวมตัวของประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ เพื่อผนึกกำลังในการพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพแต่ละประเทศให้เจริญก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกัน กระปุกดอทคอมจึงได้นำเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนในด้านต่าง ๆ มาฝาก เพื่อเพิ่มเติมความรู้ให้เพื่อน ๆ เตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งในวันนี้จะเป็นเรื่องของชุดประจำชาติแสนสวย ว่าแต่จะมีชุดอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันเลย

1. ชุดประจำชาติของประเทศมาเลเซีย

          สำหรับชุดประจำชาติมาเลเซียของผู้ชาย เรียกว่า บาจู มลายู (Baju Melayu) ประกอบด้วยเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวที่ทำจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย หรือโพลีเอสเตอร์ที่มีส่วนผสมของผ้าฝ้าย ส่วนชุดของผู้หญิงเรียกว่า บาจูกุรุง (Baju Kurung) ประกอบด้วยเสื้อคลุมแขนยาว และกระโปรงยาว

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
บาจู มลายู - ประเทศมาเลเซีย

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
บาจูกุรุง - ประเทศมาเลเซีย

2. ชุดประจำชาติของประเทศเวียดนาม

          อ่าวหญ่าย (Ao dai) เป็น ชุดประจำชาติของประเทศเวียดนามที่ประกอบไปด้วยชุดผ้าไหมที่พอดีตัวสวมทับ กางเกงขายาวซึ่งเป็นชุดที่มักสวมใส่ในงานแต่งงานและพิธีการสำคัญของประเทศ มีลักษณะคล้ายชุดกี่เพ้าของจีน ในปัจจุบันเป็นชุดที่ได้รับความนิยมจากผู้หญิงเวียดนาม ส่วนผู้ชายเวียดนามจะสวมใส่ชุดอ่าวหญ่ายในพิธีแต่งงาน หรือพิธีศพ

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
อ่าวหญ่าย - ประเทศเวียดนาม


3. ชุดประจำชาติของประเทศพม่า

          ชุดประจำชาติของชาวพม่าเรียกว่า ลองยี (Longyi) เป็นผ้าโสร่งที่นุ่งทั้งผู้ชายและผู้หญิง ในวาระพิเศษต่าง ๆ ผู้ชายจะใส่เสื้อเชิ้ตคอปกจีนแมนดารินและเสื้อคลุมไม่มีปก บางครั้งจะใส่ผ้าโพกศีรษะที่เรียกว่า กอง บอง (Guang Baung) ด้วย ส่วนผู้หญิงพม่าจะใส่เสื้อติดกระดุมหน้าเรียกว่า ยินซี (Yinzi) หรือเสื้อติดกระดุมข้างเรียกว่า ยินบอน (Yinbon) และใส่ผ้าคลุมไหล่ทับ

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
ลองยี - ปรเทศพม่า


4. ชุดประจำชาติของประเทศบรูไน

          ชุดประจำชาติของบรูไนคล้ายกับชุดประจำชาติของผู้ชายประเทศมาเลเซีย เรียกว่า บาจู มลายู (Baju Melayu) ส่วนชุดของผู้หญิงเรียกว่า บาจูกุรุง (Baju Kurung) แต่ผู้หญิงบรูไนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส โดยมากมักจะเป็นเสื้อผ้าที่คลุมร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ส่วนผู้ชายจะแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาว ตัวเสื้อยาวถึงเข่า นุ่งกางเกงขายาวแล้วนุ่งโสร่ง เป็นการสะท้อนวัฒนธรรมสังคมแบบอนุรักษ์นิยม เพราะบรูไนเป็นประเทศมุสสิม จึงต้องแต่งกายมิดชิดและสุภาพเรียบร้อย

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
บาจู มลายู และบาจูกุรุง - ประเทศบรูไน

5. ชุดประจำชาติของประเทศลาว

          ผู้หญิงลาวนุ่งผ้าซิ่น และใส่เสื้อแขนยาวทรงกระบอก สำหรับผู้ชายมักแต่งกายแบบสากล หรือนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อชั้นนอกกระดุมเจ็ดเม็ด คล้ายเสื้อพระราชทานของไทย


ประเทศลาว

6. ชุดประจำชาติของประเทศอินโดนีเซีย

          เกบาย่า (Kebaya) เป็นชุดประจำชาติของประเทศอินโดนีเซียสำหรับผู้หญิง มีลักษณะเป็นเสื้อแขนยาว ผ่าหน้า กลัดกระดุม ตัวเสื้อจะมีสีสันสดใส ปักฉลุเป็นลายลูกไม้ ส่วนผ้าถุงที่ใช้จะเป็นผ้าถุงแบบบาติก ส่วนการแต่งกายของผู้ชายมักจะสวมใส่เสื้อแบบบาติกและนุ่งกางเกงขายาวหรือเตลุก เบสคาพ (Teluk Beskap) ซึ่งเป็นการแต่งกายแบบผสมผสานระหว่างเสื้อคลุมสั้นแบบชวาและโสร่ง และนุ่งโสร่งเมื่ออยู่บ้านหรือประกอบพิธีละหมาดที่มัสยิด

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
เกบาย่า - ประเทศอินโดนิเซีย

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
เตลุก เบสคาพ - ประเทศอินโดนิเซีย
 
7. ชุดประจำชาติของประเทศฟิลิปปินส์

          ผู้ชายจะนุ่งกางเกงขายาวและสวมเสื้อที่เรียกว่า บารอง ตากาล็อก (barong Tagalog) ซึ่งตัดเย็บด้วยผ้าใยสัปปะรด มีบ่า คอตั้ง แขนยาว ที่ปลายแขนเสื้อที่ข้อมือจะปักลวดลาย ส่วนผู้หญิงนุ่งกระโปรงยาว ใส่เสื้อสีครีมแขนสั้นจับจีบยกตั้งขึ้นเหนือไหล่คล้ายปีกผีเสื้อ เรียกว่า บาลินตาวัก (balintawak)

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
บารอง ตากาล็อก - ประเทศฟิลิปินส์

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
บาลินตาวัก - ประเทศฟิลิปินส์


8. ชุดประจำชาติของประเทศไทย

          สำหรับชุดประจำชาติอย่างเป็นทางการของไทย รู้จักกันในนามว่า "ชุดไทยพระราชนิยม"โดยชุดประจำชาติสำหรับสุภาพบุรุษ จะเรียกว่า "เสื้อพระราชทาน"

          สำหรับสุภาพสตรีจะเป็นชุดไทยที่ประกอบด้วยสไบเฉียง ใช้ผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัว ซิ่นมีจีบยกข้างหน้า มีชายพกใช้เข็มขัดไทยคาด ส่วนท่อนบนเป็นสไบ จะเย็บให้ติดกับซิ่นเป็นท่อนเดียวกันหรือ จะมีผ้าสไบห่มต่างหากก็ได้ เปิดบ่าข้างหนึ่ง ชายสไบคลุมไหล่ ทิ้งชายด้านหลังยาวตามที่เห็นสมควร ความสวยงามอยู่ที่เนื้อผ้าการเย็บและรูปทรงของผู้ที่สวม ใช้เครื่องประดับได้งดงามสมโอกาสในเวลาค่ำคืน

โดยชุดไทยพระราชนิยม แบ่งออกเป็น 8 ประเภท ดังนี้

1. ชุดไทยเรือนต้น

2. ชุดไทยจิตรลดา

3. ชุดไทยอมรินทร์

4. ชุดไทยบรมพิมาน

5. ชุดไทยจักรี

6. ชุดไทยจักรพรรดิ

7. ชุดไทยดุสิต

8. ชุดไทยศิวาลัย

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
ชุดไทยพระราชนิยม และเสื้อพระราชทาน - ประเทศไทย
 

9. ชุดประจำชาติของประเทศกัมพูชา

          ชุดประจำชาติของกัมพูชาคือ ซัมปอต (Sampot) หรือผ้านุ่งกัมพูชา ทอด้วยมือ มีทั้งแบบหลวมและแบบพอดี คาดทับเสื้อบริเวณเอว ผ้าที่ใช้มักทำจากไหมหรือฝ้าย หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ซัมปอตสำหรับผู้หญิงมีความคล้ายคลึงกับผ้านุ่งของประเทศลาวและไทย ทั้งนี้ ซัมปอดมีหลายแบบซึ่งจะแตกต่างกันไปตามชนชั้นทางสังคมของชาวกัมพูชา ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันจะใช้วัสดุราคาไม่สูง ซึ่งจะส่งมาจากประเทศญี่ปุ่น นิยมทำลวดลายตามขวาง ถ้าเป็นชนิดหรูหราจะทอด้ายเงินและด้ายทอง

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
ซัมปอต - ประเทศกัมพูชา


10. ชุดประจำชาติประเทศสิงคโปร์

          สิงคโปร์ไม่มีชุดประจำชาติเป็นของตนเอง เนื่องจากประเทศสิงคโปร์แบ่งออกเป็น 4 เชื้อชาติหลัก ๆ ได้แก่ จีน มาเลย์ อินเดีย และชาวยุโรป ซึ่งแต่ละเชื้อชาติก็มีชุดประจำชาติเป็นของตนเอง เช่น ผู้หญิงมลายูในสิงคโปร์ จะใส่ชุดเกบาย่า (Kebaya) ตัว เสื้อจะมีสีสันสดใส ปักฉลุเป็นลายลูกไม้ หากเป็นชาวจีน ก็จะสวมเสื้อแขนยาว คอจีน เสื้อผ้าหน้าซ่อนกระดุม สวมกางเกงขายาว โดยเสื้อจะใช้ผ้าสีเรียบหรือผ้าแพรจีนก็ได้

พาไปชม 10 ชุดประจำชาติอาเซียน
ชุดเกบาย่า - ประเทศสิงคโปร์

          รู้จักกันไปแล้วสำหรับชุดประจำชาติสวย ๆ ของชาติสมาชิกอาเซียน ที่เราอาจได้เห็นกันอยู่บ้างจากบรรดาผู้นำชาติอาเซียนที่มาประชุมในบ้านเรา หรือในประเทศอื่น ๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่า แต่ละชาติต่างก็มีเครื่องแต่งกายที่สวยงาม และสะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละชาติสมาชิกสมาคมอาเซียนได้เป็นอย่างดี